Oct 4, 2012

My First Month In Norge med ICE !!!

Hei Hei เราชื่อไอซ์นะ AFS NOR#51
   ตอนนี้ก็มาอยู่นอร์เวย์ได้ ๑ เดือนแล้วเวลาผ่านไปไวมากทั้งที่รู้สึกเหมือนพึ่งมา วันนี้เราก็จะมาบ่นชีวิตกรากๆของเราให้ทุกคนได้อ่านกันนะ :D
   นี่ก็เป็นครั้งแรกของเราอ่ะที่ได้มาต่างประเทศ ความรู้สึกเราตอนแรกที่ไปเหยียบสนามบินนอร์เวย์คือ ป๊าดดดดดดดดด!มันคือหนาวแถะ แล้วความรู้สึกถัดมาจากนั้นคือโอ้ว!ประเทศมันสวยมาก อากาศดี
แต่.....ของแพงเชี่ยเห็นราคาแต่ละอย่างแล้วจะเป็นลมเพราะสมองมันคูณ 5เองอัตโนมัติทุกครั้งที่ไปร้านขายของ(เงินไทย 5บาท = เงินนอร์เวย์ 1โครน) เหยดดดดดดดดด หลังจากค่ายแรกที่เราไปเกาะกลุ่มคนไทยนินทาต่างชาติเสร็จ เราก็แยกย้ายไปตามบ้านของแต่ละคนไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง(พูดเหมือนแต่งงานออกจากบ้าน) บ้านโฮสของเราอยู่ที่ Oslo เมืองหลวงของนอร์เวย์ มีสมาชิก 4คนมีพ่อ แม่ พี่สาว พี่ชายแต่พี่ชายออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว เค้าดีมากมาก เค้าน่ารัก ใจดี แต่ เค้าเป็นแค่เวลคั่มโฮส เราเลยวางแผนที่จะมัดใจเค้าด้วยการทำสารพัดงานบ้านงานหนักงานเบาไม่เกี่ยงแย่งทำหมดแล้วก็มีการให้ของฝากจากไทยบ้างบางเวลา
แผนการแรก เทคโอเว่อร์บ้าน
    แผนการต่อมาเริ่มเอาของของเราไปวางตามจุดต่างๆให้เค้าเห็นว่าเรามีตัวตนในบ้านนี้นะ โอเค!พักการบ่นเรื่องโฮสไว้แค่นี้ก่อน บ่นเรื่องโรงเรียนกับเพื่อนบ้าง เราได้ไปเรียนที่โรงเรียน Manglerud Videregående Skole เป็นโรงเรียนที่มี 3สายคือ สายสามัญประจำบ้าน สายศิลปะ และสายดนตรี เราได้เรียนในสายดนตรีปี 2เพราะโฮสเค้าเห็นว่าเราเล่นกีตาร์ได้(ก็พอได้แต่ไม่ดีมาก) 


Manglerud




Opera House

 และมันก็เป็นโชคดีของเราที่ได้เรียนในสายดนตรีเพราะมันเรียนชิวมากๆ ทุกวิชาแทบจะเกี่ยวกับดนตรีทั้งหมด มีแค่วิชาคณิตกับสังคม,พละเท่านั้นที่ไม่เกี่ยวกับดนตรี และทุกวันพฤหัสจะมีชั่วโมงให้นักเรียนแสดงคอนเสิร์ตโชว์ความสามารถ แล้ววันศุกร์ก็มีการจัดให้นักเรียนไปเรียนวิชาการเล่นเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัดคือนักเรียนสายดนตรีปี 2แต่ละคนจะมีเครื่องดนตรีหลัก 1ชิ้นกับเครื่องดนตรีรองอีก 1ชิ้นคือเปียโน บางทีก็พาไปทัศนศึกษาที่โอเปร่า เฮ้าส์ ไปดูวงออเคสตร้าเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ ที่นี่ชั่วโมงว่างเยอะคือจะเว้นให้ไปไหนก็ได้ 2ชม.ทุกวันพฤหัสและศุกร์เราเลยเกิดอาการเคว้งไม่รู้จะทำอะไรดี ภาษาก็ไม่ได้ เพื่อนก็ไม่มีรันทดสุดๆ
ห้องที่เราไปอยู่ 2MUB <3
   2 วันแรกที่เราไปโรงเรียนเราคิดว่าเพื่อนเราน่ารักมากๆเข้ามาทักมาแนะนำตัวกับเราแต่พอวันต่อมากลับไม่เป็นเหมือนเดิมไม่ทักเรา ไม่คุยกับเราเหมือนเดิม คุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะภาษาอังกฤษเรากราก แล้วเค้าพูดกันแต่ภาษานอร์วีเจี้ยน ซึ่งมันทำให้เราเกิดอาการเฟลชีวิตและโฮมซิกขึ้นมาเลยทีเดียวคิดเสียใจทำไมเราเลือกประเทศนี้ คนเย็นชาเหลือเกิน อากาศก็หนาว แต่แล้ววันนึงก็มีเพื่อนมาคุยกับเราเธอชื่อว่านาตาเลีย(คนที่ถักเปียข้างเดียวในรูป) เธอเป็นคนนอร์วีเจี้ยนที่ไปอยู่รัสเซียตั้งแต่เด็กแต่พึ่งกลับมาที่นอร์เวย์ปีที่แล้วเข้ามาพูดกับเราว่า เค้าเข้าใจเรานะว่าเรารู้สึกยังไง เหงาใช่มั้ย? เค้าก็เคยเป็นเหมือนกัน เพราะคนนอร์เวย์เข้าหายากเค้าเข้าใจว่ามันเป็นยังไง เรานี่ซึ้งน้ำตาแทบจะไหลตอนเค้ามาพูดกับเรา แต่หลังจากนั้น 2วันเค้าก็ไม่คุยกับเราเหมือนเดิมเหมือนตัดเราออกจากระบบ เป็นการเฟลรอบที่ 2 เราเลยหาวิธีการหาเพื่อน(แผนเยอะนะมึง)ด้วยการยิ้มแล้วก็ไฮกับทุกคนที่เรารู้จักแต่จากนิสัยส่วนตัวของเราที่แถวบ้านภาษาถิ่นเราเรียกว่าหน้ายาก หรือหน้าเหมือนอารมณ์บูดตลอดเวลาทำให้เวลาเรายิ้มมันเหมือนเฟก(เออกูก็เฟกนั้นแหละ) แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาเพราะเพื่อนไม่รู้ว่าเราเฟกกิ้งสมายใส่เค้า ๕๕๕๕๕๕๕๕ ที่จริงคนที่นี่ไม่ได้เย็นชาเลยแต่เค้าขี้อายและไม่ชินที่จะพูดภาษาอังกฤษ บางคนมองหน้าแล้วมองหน้าอีกเหมือนจะทักแต่พอเราจะทักก็หันหน้าหนี (จะเอายังไง)
สภาพหน้ายากปกติ
   หลังจากยิ้มบ้างทักทายบ้างอะไรๆก็ดีขึ้นนิดนึงมีเพื่อนหลงมาคุยกับเราบ้างบางเวลา แต่ก็ไม่ได้เยอะมาก เพราะส่วนมากเราจะอยู่กับโฮสพี่สาวติดหนับเป็นตังเม หลังๆเพื่อนสนิทพี่เราเห็นเราเงียบเกินหรือเค้าสงสารก็ไม่รู้ เค้าเข้ามาเล่นกับเรา ชวนเราคุย ชวนทำอะไรเกรียนๆ บางทีก็มาถามภาษาไทยกับเรา เช่น เธอรู้จักคำนี้มั้ยแล้วก็พูดว่า 'ผู้หญิงขายตัว'เป็นภาษาไทยสำเนียงฝรั่งเรานี่ถึงกับเงิบเลย คือมันจะไม่เป็นปัญหาอะไรเลยถ้าคนขายอาหารที่โรงอาหารเป็นคนไทย ๕๕๕๕๕
เคยมีคนให้ส้มเราด้วย ดีใจจุงเบย
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่เราได้กล่าวไปนั้นก็กำลังจะเป็นแค่อดีตเพราะเราต้องย้ายโรงเรียนและเราได้โฮสถาวรแล้วซึ่งวันก่อนที่จะได้โฮสถาวร เวลคั่มโฮสของเราก็มาถามว่าเธอคิดว่าเธอควรจะอยู่ที่นี่ต่อไปมั้ย เพราะเราก็อยากรับเธอเหมือนกันแต่เรายุ่งมากๆ และพี่สาวก็จะไปแลกเปลี่ยนที่นิวซีแลนด์ทำให้เราจะเป็นลูกคนเดียวในบ้าน คิดว่าจะอยู่ไหวมั้ยหรือควรจะไปอยู่บ้านที่มีเด็กๆเป็นเพื่อน ให้เธอเอาไปคิดนะ เราก็ตอบตกลงที่เราจะเอาไปคิด แต่พอวันต่อมากำลังพักกลางวันอยู่ AFS นอร์เวย์ก็โทรมาบอกว่าได้ครอบครัวถาวรแล้วนะ เราเลยไม่มีโอกาสที่จะได้ตอบตกลง เพราะเราก็อยากอยู่กับเค้าต่อเหมือนกัน แต่มันก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่หวังให้โฮสใหม่ของเราดีเหมือนเดิม อ้อ!เรามีเรื่องประทับใจอย่างนึงเกี่ยบกับเพื่อนที่โรงเรียนเดิมคือเค้ามากอดลาเราเยอะเลยตอนวันสุดท้ายที่เราไปเรียน ทั้งที่บางคนไม่เคยคุยกับเราด้วยซ้ำ (มาคุยกับกูเอาวันสุดท้ายที่จะไป) แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็โอเคแล้วเรามีความสุขดีไม่โฮมซิกไม่เสียใจแล้วด้วยที่เลือกนอร์เวย์ เพราะธรรมชาติที่นี่สวยจริงสวยจัง สงบ ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงปิดAutumn Holidayเป็นการปิดโรงเรียน 5วันปิดทำไมก็ไม่รู้แต่ดีกับเรา ภาษาก็ช่างมันเถอะ ถูๆไถๆเดี๋ยวมันมาเอง ๕๕๕๕๕๕ 
วีรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วง 1เดือนที่ผ่านมา!!!!!
  ในคืนวันเสาร์ ณ เวลาตีหนึ่งครึ่ง เราเกิดปวดฉี่มากของมากของมากแล้วถ้าเราออกไปห้องน้ำต้องขึ้นบันไดไปห้องตรงกลางของรูป(สถานที่เกิดเหตุ) สัญญาณกันขโมยจะดังทั้งบ้านทำให้ทุกคนในบ้านตื่น
สถานที่เกิดเหตุ
หลังจากการตัดสินใจที่เด็ดขาดแล้วว่าจะยอมฉี่แตกหรือออกไปปิดสัญญาณแล้วเราเลือกที่จะไปปิดสัญญาณกันขโมยในห้องทางด้านซ้ายของรูป(สถานที่เกิดเหตุ) 
  พอเราเดินออกจากห้องก้าวขึ้นบันได คู่กรณีที่รักของเราก็ส่งเสียงดังไปทั่วบ้าน(กูไม่ใช่โจรนะ)เราก็รวบรวมสติอันน้อยนิดของเราไปกดปิดแต่ด้วยความฉลาด(น้อย)ของเราบวกทั้งความมืดมีเพียงแสงสว่างจากโทรศัพท์ ทำให้เรากดผิดปุ่มเป็นปุ่มเรียกตำรวจแทนเสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังกว่าเดิมแถมแจ้งไปที่สถานีตำรวจด้วยว่ามีขโมยบุก ณ จุดนั้นบอกได้เลยว่าฉี่เกือบแตก พอรวบรวมสติได้ก็กดปุ่มปิดถูกซักที ดีใจจะได้ไปฉี่ หลังจากทำธุระเสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปขอโทษโฮสพี่ที่ทำหน้าเหมือนเห็นขโมยบุกบ้าน และโฮสมัมที่พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้าและหลับไปแล้ว ออกมาทำหน้าเซ็งๆและบอกว่า that's ok (ใจดีจุงเบย)แต่เค้าต้องโทรไปบอกตำรวจแล้วก็บริษัทสัญญาณกันขโมยว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นการเข้าห้องน้ำที่ระทึกใจที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลย Based on true story at my second week in Norway.
ปล.กลายเป็นโจรที่บังเอิ๊ญปวดฉี่
ปล๒.กูเกลียดมึงอิสัญญาณกันขโมย
คู่กรณี








เบ๊ของคู่กรณี

รูปกรากอยากโชว์(ยังไม่จบอีกหรือ)
ขวดละ ๑๐๐บาทเองจิ๊บๆ(พ่อง)
มีแค่ที่ทางเหนือทางใต้อย่างosloอดจ้า!
อาหารหลักหาได้ขาดไม่



ลูกเห็บ!เหมือนหิมะเลย
ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกวัน




ขอบคุณที่มาอ่านมาชมนะ Tusen takk!!!!

 









1 comment:

  1. You buy the same post card as me loey ahh 5555

    ReplyDelete